วันสงกรานต์ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่แบบดั้งเดิมของไทย เราในฐานะชาวพุทธ ก็มักจะตักบาตร ทำบุญ ไหว้พระสักการะเพื่อให้เกิดสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัว จึงได้รวบรวม 8 พระธาตุประจำวันเกิด ของคนทั้ง 7 วัน มาฝากกัน ซึ่งพระธาตุทุกองค์ล้วนตั้งอยู่ที่จังหวัดนครพนม เพียงจังหวัดเดียว เหมาะสำหรับใครที่อยากเดินทางไปแสวงบุญที่สุด
ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ปัจจุบันมี พระเทพวรมุนี เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 – ปัจจุบัน ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม เพิ่มเติม
การบูชา : ข้าวตอก ข้าวเหนียวปิ้ง น้ำอบ ดอกไม้สีแดง ธูป 6 ดอก เทียน 2 เล่ม
คาถาบูชา : ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ
ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุเรณู อำเภอเรณูนคร อยู่ห่างจากตัวจังหวัด ประมาณ 51 กิโลเมตร องค์พระธาตุจาลองมาจากองค์พระธาตุพนม ภายในพระธาตุเป็นโพรงบรรจุพระไตรปิฎกและพระพุทธรูปทองคา พระพุทธรูปเงิน ของมีค่า และเครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง ภายในโบสถ์ยังประดิษฐานพระองค์แสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคาศิลปะแบบลาว ปางสมาธิ พระคู่บ้านของอำเภอ เชื่อกันว่าคนที่เกิดวันจันทร์มักเป็นคนมีเสน่ห์ใครได้กราบไหว้จะมีรูปงามผ่องใส ตรงกับลักษณะของเทพประจำวันจันทร์
การบูชา : ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีเหลือง ธูป 15 ดอก เทียน 2 เล่ม
คาถาบูชา : ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุศรีคุณ อำเภอนาแก ห่างจากอำเภอธาตุพนมประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอนาแก ลักษณะส่วนบนของพระธาตุคล้ายพระธาตุพนม ต่างกันตรงที่ชั้นที่ 1 มี 2 ตอน เป็นรูปสี่เหลี่ยม ประดับลวดลายปูนปั้น และชั้นที่ 2 สั้นกว่าพระธาตุพนมภายในบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุของพระโมคลานะ พระสารีบุตร พระสังกัจจายนะเชื่อว่าหากใครได้ไปสักการะจะได้อานิสงส์ มีศักดิ์ศรีทวีคูณ และจะเสริมพลังนักสู้ให้มีจิตใจเข้มแข็ง
การบูชา : ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีชมพู ธูป 8 ดอก เทียนขาว 2 เล่ม
คาถาบูชา : ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง
ประดิษฐานอยู่ ณ วัดโฆษิตดาราม ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางนครพนม – สกลนคร เป็นปูชนียสถานที่สาคัญยิ่งแห่งหนึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระอรหันต์ ภายในพระอุโบสถนอกจากพระประธานคือ พระพุทธไชยสิทธิ์แล้วยังมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติสลักจากไม้ต้นสะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภาพเขียนบนฝาผนังอุโบสถแสดงพุทธประวัติ มีลวดลายศิลปกรรมที่งดงามมาก เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุมหาชัย จะประสบแต่ชัยชนะในชีวิต จะเป็นนักประสานสิบทิศ โอภาปราศรัยดี ค้าขายคล่อง พูดจามีคนเชื่อถือ
การบูชา : ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกบัว ธูป 17 ดอก เทียน 2 เล่ม
คาถาบูชา : ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า ปิ สัม ระ โล ปุ สุต พุท
ประดิษฐานอยู่ ณ พระธาตุมรุกขนคร ประดิษฐาน ณ วัดมรุกขนคร อำเภอธาตุพนม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังสี่เหลี่ยม ลักษณะคล้ายพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กกว่า และสูงประมาณ 40 เมตร
การบูชา : ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกบัวเทียน ธูป 12 ดอก เทียน 2 เล่ม
คาถาบูชา : ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ
ประดิษฐานอยู่ ณ พระธาตุประสิทธิ์ ประดิษฐาน ณ วัดธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า เดิมเป็นเจดีย์เก่าแก่ ชำรุดทรุดโทรม มีเถาวัลย์ปกคลุม ภายในอุโมงค์มีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ ต่อมา พระธาตุประสิทธิ์ได้รับการบูรณะ โดยเลียนแบบพระธาตุพนม ในปี พ.ศ. 2515 ได้นำพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า และอรหันตธาตุรวม 7 องค์มาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ
การบูชา : ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีแดง ธูป 19 ดอก เทียน 2 เล่ม
คาถาบูชา : ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
ประดิษฐานอยู่ ณ พระธาตุท่าอุเทน ประดิษฐานอยู่ ณ วัดท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน ลักษณะเจดีย์จำลองมาจากพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็ก และ สูงกว่าพระธาตุพนม ภายในบรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งพระอาจารย์ศรีทัตถ์ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง
พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์ คือพระธาตุหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุ จะได้รับอานิสงส์ส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความรุ่งโรจน์ เปรียบเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามอรุณรุ่ง
การบูชา : ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีฟ้า (หรือน้ำเงิน) ธูป 21 ดอก เทียน 2 เล่ม
คาถาบูชา : ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า วา โธ โน อะ มะ มะ วา
ประดิษฐานอยู่ ณ พระธาตุประสิทธิ์ ประดิษฐาน ณ วัดธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า เดิมเป็นเจดีย์เก่าแก่ ชำรุดทรุดโทรม มีเถาวัลย์ปกคลุม ภายในอุโมงค์มีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ ต่อมา พระธาตุประสิทธิ์ได้รับการบูรณะ โดยเลียนแบบพระธาตุพนม ในปี พ.ศ. 2515 ได้นำพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า และอรหันตธาตุรวม 7 องค์มาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ
การบูชา : ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีแดง ธูป 19 ดอก เทียน 2 เล่ม
คาถาบูชา : ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยที่หมู่ที่ 1 บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม กับประเทศลาวที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ควบคุมการก่อสร้างโดยสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวงและบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างใช้งบประมาณก่อสร้างจากรัฐบาลไทยทั้งสิ้น 1,723 ล้านบาท มีระยะเวลาการก่อสร้างรวม 900 วัน เปิดให้บริการในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งด้านการค้า และการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม และภาคใต้ของประเทศจีน ซึ่งมีความยาวรวม 1,423 เมตร มีความกว้าง 13 เมตร และมีการช่องจราจร 2 ช่อง และไม่มีทางรถไฟ และเพื่อเป็นการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพิ่มเติม
โดยในพิพิธภัณฑ์มีตู้โชว์แสดงปลาสวยงาม ปลาชนิดต่างๆ เช่นปลาบึก ปลาบ้า ปลากดและอื่นๆอีกมากมายในแถบลุ่มแม่น้ำโขง ไว้ให้กับนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมเน้นปลาน้ำจืดเน้นพันธุ์ปลาที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ไว้ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ดูชม ยังมีอุโมงค์ยักษ์ทางเดินสั้นๆ ให้ชมปลาน้ำโขงในมุมมองอลังการด้วย พร้อมถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดซึ่งเป็นปลาบึกตัวโตๆ น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก และไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ ให้กับเยาวชน นักเรียนนักศึกษา ได้เรียนรู้ปลาแต่ละชนิดในแถบลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งนับวันจะหาดูได้ยากต่อไปอีกทางหนึ่ง และหลายคนได้แวะเวียนมาเที่ยวชมต่างบอกต่อกันไปว่าที่นครพนมมีแหล่งเรียนรู้ของโลกปลาแม่น้ำโขงที่จังหวัดนครพนม
เปิดทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ 9.00 – 17.00 น. เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท (พระภิกษุ-สามเณร และ ผู้สูงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เข้าชมฟรี)
“องค์พญาศรีสัตตนาคราช” ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.นครพนม อย่างที่ทราบกันว่าพี่น้องชาวไทยและชาวลาว ล้วนมีความเชื่อผูกพันอยู่กับองค์พญานาค พอๆ กับความผูกพันในลำน้ำโขง รุ่นปู่ย่าล้วนศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคในฐานะที่เป็นผู้ดูแลปกปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม ซึ่งเป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน แน่นอนว่าจากประติมากรรมที่สูงค่าผนวกกับความเชื่อความศรัทธาที่มีต่อองค์พญาศรีสัตตนาคราช ย่อมส่งผลให้จังหวัดนครพนม ดินแดนแห่งลุ่มน้ำโขงกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่สร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจของจังหวัดอย่างไม่อาจปฏิเสธ ณ บริเวณที่ประดิษฐานองค์พญานาค ลานศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขงหน้าสำนักงานป่าไม้ ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม
“องค์พญาศรีสัตตนาคราช” ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.นครพนม อย่างที่ทราบกันว่าพี่น้องชาวไทยและชาวลาว ล้วนมีความเชื่อผูกพันอยู่กับองค์พญานาค พอๆ กับความผูกพันในลำน้ำโขง รุ่นปู่ย่าล้วนศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคในฐานะที่เป็นผู้ดูแลปกปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม ซึ่งเป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน แน่นอนว่าจากประติมากรรมที่สูงค่าผนวกกับความเชื่อความศรัทธาที่มีต่อองค์พญาศรีสัตตนาคราช ย่อมส่งผลให้จังหวัดนครพนม ดินแดนแห่งลุ่มน้ำโขงกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่สร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจของจังหวัดอย่างไม่อาจปฏิเสธ ณ บริเวณที่ประดิษฐานองค์พญานาค ลานศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขงหน้าสำนักงานป่าไม้ ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม
อุโมงค์นาคราช แลนด์มาร์คของเส้นทางจักรยานริมแม่น้ำโขงจังหวัดนครพนมอยู่ช่วงหลังที่ทำการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อุโมงค์เหล็กทรงโค้งสวยงามมีผนังกั้นปลอดภัย ระยะทางรวมกว่า 307 เมตร เสมือนเราได้ปั่นลอดท้องพญานาคและยังสามารถชมทัศนียภาพของลำน้ำโขงได้กว้างไกลและสามารถขี่จักรยานสวนกันได้สะพานนาคีอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์และต้องปั่นไปให้ถึงห้ามพลาดเด็ดขาด คือสะพานนาคีที่มีความยามกว่า 206 เมตร สะพานจักรยานแบบเปิดโล่ง ให้ได้ชมวิวทิวทัศน์ริมฝั่งโขงอย่างเต็มอิ่ม
เป็นที่เที่ยวนครพนม ที่เข้ามาแล้วมีความงดงามเหมือนได้ย้อนยุคกันเลยทีเดียว พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่านครพนม จวนผู้ว่าในอดีต เป็นเรือนไม้ บรรยากาศโดยรอบก็สงบ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยประทับครั้งเสด็จเยือนเมืองนครพนมอีกด้วย
อุทยานแห่งชาติภูลังกา ครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม และอำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ มีเนื้อที่ประมาณ 31,250 ไร่ หรือประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ น้ำตกตาดขาม น้ำตกตาดโพธิ์ เป็นน้ำตกไหลเป็นชั้นจำนวน 4 ชั้น แต่ละชั้นสูงไม่น้อยกว่า 10 เมตร ชั้นที่ 2 สูงถึง 30 เมตร เจดีย์กองข้าวศรีบุณเนาว์ ซึ่งเป็นเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่อัญเชิญมาจากประเทศเนปาลและหน้าผา “ใจขาด” เป็นหน้าผาสูงชัน บริเวณรอบๆมีก้อนหินรูปทรงแปลกๆ เป็นจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ตกที่บริเวณบึงโขงหลง ตามลำดับ ที่เที่ยวธรรมชาตินครพนม อุทยานแห่งชาติภูลังกา พื้นที่โดยรวมเป็นภูเขาหินทรายเรียงซ้อนกัน ทอดยาวไปตามแนวแม่น้ำโขง มีทางเดินศึกษาธรรมชาติถึง 3 เส้นทาง ช่วงเดือน พ.ค.-ต.ค. จะมีดอกไม้ กล้วยไม้ป่าบานสะพรั่ง ใครที่มาเที่ยวนครพนมแล้วก็อย่าลืมแวะมาเช็คอินเที่ยวภูลังกากัน เพิ่มเติม
“ไหลเรือไฟ” เป็นพิธีกรรมที่พุทธศาสนิกชนชาวอีสานยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณโดยมีความเชื่อว่าการไหลเรือไฟเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่พระพุทธองค์ประทับไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทานที ครั้งที่พญานาคได้ทูลอาราธนาพระพุทธองค์ไปแสดงธรรมในพิภพของนาคใต้เมืองบาดาล รวมทั้งความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพญานาคในลำน้ำโขง การระลึกถึงพระคุณของพระแม่คงคา ขอขมาลาโทษต่อแม่น้ำ ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในแม่น้ำ และยังถือเป็นการลอยเคราะห์ลอยโศก ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข มีโชคมีลาภไหลเรือไฟ นครพนม นอกจากนั้นในตำนานยังเล่าขานกันว่า ในแม่น้ำโขงเป็นที่สิงสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เช่น พญานาค เจ้าพ่อเหล็กซีด้ามแตก เจ้าพ่อคำแดง เจ้าพ่อหมื่น เจ้าพ่อสัมมะติ เจ้าพ่อสิบสอง ต้องทำการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น เพื่อให้ท่านปกปักรักษาบ้านเมือง ประชาชนให้มีความสงบสุขร่มเย็น ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และขอให้มีโชคลาภ การทำมาหากินให้มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ เจริญรุ่งเรือง
ประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม กำหนดจัดขึ้นทุกวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 มหกรรมไหลเรือไฟ รวม 9 วัน 9 คืน
การแข่งขันเรือยาวประเพณีสัมพันธ์ไทยลาว ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จังหวัดนครพนม
จัดขึ้นภายใต้ประเพณีงานไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี ซึ่งปฏิบัติสืบเนื่องต่อกันมาเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลออกพรรษา เพื่อเป็นการพิสูจน์ฝีมือและพละกำลังของฝีพายที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดยสนามที่มีระยะทางยาว 1,500 เมตรและ 500 เมตร สร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชน ทั้งเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีกับเพื่อนบ้าน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม : tatcontactcenter : Mthai : wongnai : wikipedia :
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครพนม นั้นภูมิใจนำเสนอโดย WordPress